วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2561

[Statue] Diablo III Overthrown by Sideshow Collectibles


     สวัสดีทุกท่าน กลับมาพบกับ Crucifer's Collectible Review กันอีกแล้วครับ  ถึงแม้ว่าตอนนี้จะกลับมาท้ายเดือนเพราะที่ผ่านมาเจอเหตุการณ์หลายอย่างแต่ยังพยายามเขียนรีวิวของสะสมที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้อ่านเช่นเดิม

     ในรีวิวของเพจ หากใครติดตามก็จะรู้ว่าผมเคยเขียนถึงของสะสมหลายชิ้น แต่รีวิวในครั้งนี้ผมตั้งใจเขียนเป็นพิเศษ เพราะแม้จะไม่ใช่รีวิวของใหม่ แต่บอกได้ว่านี่คืองานปั้นของสะสมชิ้นแรกที่ดึงผมเข้ามาสู่เส้นทางนักสะสมจริงจังเลยก็ว่าได้ และแน่นอนว่างานชิ้นนั้นหลายคนที่ติดตามเป็นแฟน Diablo น่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะนี่คือหนึ่งในที่สุดตั้งแต่เปิดตัว Diablo III มาเลย

     ใช่ครับ ผมกำลังเขียนถึง Diablo III Overthrown Statue งานปั้นลิขสิทธิ์ของ Blizzard Entertainment ที่มี Sideshow Collectibles เป็นผู้จัดทำให้ในช่วงเวลานั้นนั่นเอง เป็นงานที่โดดเด่นที่สุดงานหนึ่งในช่วงที่เป็นยุคทองของ Sideshow และยังทำให้ Blizzard นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ทั้งศิลปินและนักสะสมสานต่องาน Custom Statue ที่อิงจาก Overthrown อีกมากมาย


งาน Custom Statue ล่าสุดที่อิงคีย์อาร์ตจาก Wei Wang มาแบบเต็ม ๆ


หมอหมี นักสะสมที่เป็นหนึ่งในแอดมินของ Thailand Statue Collectors
ถึงกับสั่งทำ Nephalem Series ต่อยอดให้ครบทุกคลาสในเกม
ใครที่เคยอยู่ D3Thai หรือไปงาน Playpark Fanfest 2014 น่าจะคุ้นตากันดี 

     ต้องขอขอบคุณพี่แก๊ส "DSGas" ที่ไว้ใจให้ผมรับช่วงดูแล Overthrown ต่อกับ "หมอหมี" ที่พาผมมาเปิดโลกงานปั้น ทำให้ได้มาเขียนรีวิวในตอนนี้ อย่ารอช้าเลย มาดูกันว่างานชิ้นนี้เป็นตำนานยังไง ทำไมถึงยังถูกกล่าวขานจนถึงทุกวันนี้


  • Diablo III Overthrown Statue by Sideshow Collectibles
  • License: Diablo III by Blizzard Entertainment
  • Concept Art by Wei Wang (2009 Blizzard Entertainment)
  • Designed and Manufactured by Sideshow Collectibles
  • Artists:
    • Mike Najera
    • Anthony Mestas
    • Brock Otterbacher
    • Jesse Lincoln
    • Chadwick Andersen
    • Simon Garcia
    • The Sideshow Collectibles Design and Development Team
  • Year of Origin: 2009
  • Country of Origin: China
  • 1:6 Scale Diorama
  • Production Size: 18"H*12.5"W*13"D
  • Made from Polystone
  • 7 Parts with Product Instructions
  • Edition Size: R:750, Ex: 400, Blizzard Employee Ex: 350
  • Price: $299.99





     ตามธรรมเนียมรีวิวของผม แน่นอนว่าเปิดกันที่แพ็คเกจเลย เนื่องจากเป็นของที่รับช่วงมาต่อ ตอนที่ได้มาจากคุณแก๊สไม่มีกล่องน้ำตาลมาด้วย (ไม่ทราบว่าพังหรือเปล่าไม่แน่ใจ) เพราะงั้นเราจะข้ามเรื่องกล่องน้ำตาลไป มาดูกันที่กล่องสีเป็นกระดาษลังที่ค่อนข้างแข็งพอสมควรพิมพ์อาร์ตมันมาอย่างดี มี 3 ด้านเป็นรูปชิ้นงาน ส่วนอีกด้านหนึ่งที่เหลือเป็นคีย์อาร์ตเวิร์คของงานชิ้นนี้โดยฝีมือ Wei Wang จาก Blizzard นั่นเอง ด้านบนจะเป็นสัญลักษณ์เกมและชื่อชิ้นงาน ส่วนด้านล่างจะมีหลายเลขลำดับชิ้นกำกับไว้อยู่


     โฟมกันกระแทกเป็นสิ่งจำเป็นแน่นอนในการขนส่งงานปั้นและสำหรับงานชิ้นนี้ก็ถูกออกแบบมาอย่างดี มีความแข็งแรง ช่องเก็บสามารถสังเกตลักษณะเพื่อนำชิ้นส่วนแต่ละชิ้นเก็บกลับได้ง่าย (มีช่องหนึ่งว่างอยู่สำหรับใส่หัวที่สวมหมวกเกราะที่เป็น Exclusive แต่เวอร์ชั่นที่นำมารีวิวเป็น Regular เพราะงั้นเราจะไม่พูดถึงส่วนนั้น) ต้องบอกว่าสอบผ่านสำหรับการทำบรรจุภัณฑ์



     Overthrown จัดว่าเป็นงานปั้นที่มีชิ้นส่วนน้อยชิ้น เป็นชิ้นประกอบย่อยเยอะและมีชิ้นใหญ่อยู่แค่ 2 ชิ้นเท่านั้น นั่นคือ ส่วนลำตัวและฐานที่เป็นซาก Diablo แน่นอนตามลักษณะงานปั้น ใต้ฐานมีเลขระบุลำดับกำกับอยู่เช่นเดียวกับงานปั้นทั่วไป (แต่ถ้าเป็น  Blizzard Employee Exclusive จะมีพิมพ์ระบุเวอร์ชั่นแถมมาอีกด้วย) ชิ้นส่วนแบ่งเป็น 7 ส่วนดังต่อไปนี้
  • มือ 2 ข้างที่ถือขวานคนละแบบ
  • ดาบพร้อมฝักสะพายหลัง
  • หัว (ถ้า Exclusive ไม่ว่าเวอร์ชั่นไหนก็มีหมวกเกราะมาเพิ่ม)
  • ตัว
  • ฐาน
  • เขาส่วนที่หักของ Diablo



     สำหรับผมส่วนตัวมองว่าการประกอบค่อนข้างง่ายเนื่องด้วยทั้งชิ้นใหญ่และชิ้นเล็กเป็นส่วนข้อต่อข้อรับที่ชัดเจน ไม่ยุ่งยาก แถมมีน้อยชิ้นเพื่อความสะดวก


     จะมีชิ้นนึงที่ที่ต้องคิดนิดนึงคือการสะพายดาบเพราะไม่ได้มีเพียงข้อต่อหลัง ต้องเอาสายเข็มขัดของฝักดาบพาดวนไปต่อที่ด้านหลังเพื่อให้เสร็จสมบูรณ์และใช้ส่วนหัวปิดสายคาดเข็มขัดเพื่อความสวยงามไม่ขัดหูขัดตา


     เรื่องหนึ่งที่ต้องระวังในการประกอบคือมันมีโอกาสในการทำให้สีบางจุดลอกได้โดยเฉพาะการต่อเท้าซ้ายกับพื้นหินที่ต้องลงล็อคพอดี หากต่อไม่ดี กรงเล็บจากเกราะเท้าอาจทำให้ฐานเป็นรอย


     วัสดุที่ใช้ในการปั้น Overthrown หลักเลยก็คือ Polystone เป็นเรซิ่นชนิดหนึ่งที่เพิ่มความแกร่งเข้าไปอีก ทำให้มันมีความทนทานต่อสภาพอากาศ ป้องกันการงอได้ดีกว่าเดิม ในส่วนของวัสดุอื่นก็มีเพิ่มเข้ามาบ้างอย่างส่วนที่เป็นผ้าก็ใช้ยางแทน ส่วนสายเข็มขัดใช้หนังเทียมทำให้มีรอยกดทับจากหนวดของส่วนหัวบ้าง แต่ถ้าไม่ดึงส่วนหัวออกมาก็ไม่เห็น



     สำหรับคีย์อาร์ตเวิร์คนั้นก็มาจากฝั่ง Blizzard เองที่ให้ฝ่ายศิลป์ในตอนนั้นอย่าง Wei Wang (ปัจจุบันย้ายไป Bonfire Studios) เป็นคนออกแบบ ถึงอย่างนั้นชิ้นงานที่ออกมาก็อิงชุดจริงจากในเกมมากกว่าคีย์อาร์ตที่ดูโดดและไม่เป็นธรรมชาติสักเท่าไหร่ ต้องนับว่าเป็นความดีความชอบของทีมศิลปินฝั่ง Sideshow ที่เอาคีย์อาร์ตมาปรับใหม่ให้ดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับเกมมากกว่า




     ในส่วนของการปั้นต้องบอกเลยว่ารายละเอียดสวยงามและเยอะมากสำหรับงานปั้นที่อายุปาไปเกือบ 10 ปีแล้ว ซึ่งตอนนั้นค่าย Sideshow ถือว่าท๊อปฟอร์มด้านงานปั้นจริง กับงานชิ้นนี้จะมีเรื่องที่แอบขัดใจอคือรอยเลือดบนขวานซึ่งรู้สึกไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่ แต่ถือว่าโอเคสำหรับงานตั้งแต่ยุคทองของ Sideshow





     ไม่ว่าใครจะเป็นคนต้นคิดท่าตะโกนนี้ตั้งแต่ Diablo II ก็ต้องขอบคุณเขาเพราะท่านี้กลายเป็นท่าประจำตัวของ Barbarians ไปเรียบร้อย เพราะท่าตะโกนการใช้สกิลจำพวก War Cry นี้ถูกใช้มาตั้งแต่ Diablo II และทุกคนคุ้นชินกับมัน ต้องขอบคุณทีมศิลปิน Sideshow ที่ทำการบ้านมาดีเลือกท่านี้มากกว่าจะทำตามคีย์อาร์ต เพราะท่านี้ทำให้แฟนเกมรู้ทันทีว่านี่คือ Barbarian จาก Diablo


     ย้อนกลับไปหลังจากประกาศเกม Diablo III ในปี 2008 ด้วยความรอคอยของแฟนเกมอย่างใจจดใจจ่อและสมหวังทำให้เกิดกระแสจนฉุดไม่อยู่ และกลางปี 2009 ก็ได้เปิดให้จอง Overthrown ด้วยกระแสนั้นเองทำให้ยอดจอง Regular Edition 750 ชิ้นหมดภายใน 2 วัน! และขายหมดทุกเวอร์ชั่นในปี 2011 ไม่เพียงแค่นั้น ยังหาได้ยากในตลาดนักสะสมเพราะผู้ซื้อส่วนใหญ่ไม่ยอมปล่อย! นั่นเป็นส่วนแรกที่ทำให้ชิ้นงานราคามาตรฐานทั่วไปนี้สูงขึ้น

     อีกปัจจัยที่ทำให้ยังคงราคาสูงจนทุกวันนี้คือ ตัวชิ้นงานเองที่ดีจนไม่มีใครอยากปล่อย อย่างที่กล่าวในตอนแรกว่ามันมาจากยุคทองของ Sideshow ซึ่งมี Blizzard มาคุมคุณภาพก่อนปล่อย งานที่ออกมาจึงอยู่ในระดับดีมากถึงขีดสุด ทั้งการออกแบบ ความสวยงาม ความคงทนในระดับที่ปัจจุบันแทบไม่ต่างจากตอนซื้อใหม่เลย กลายเป็นหนึ่งในชิ้นงานในฝันของสายสะสม


     ด้วยเหตุผลที่กล่าวไปทั้ง 2 ข้อ ทำให้งานชิ้นนี้เป็นหนึ่งในชิ้นเอกของ Blizzard x Sideshow ราคาจึงพุ่งสูงมากจนแทบจะเป็นเท่าตัว(หรือเกินกว่านั้น)ได้เลย


     เอาตรง ๆ เลยนะ ถ้าคิดว่าจะมาจับผิดงานนี้จริง ๆ หาแทบไม่เจอเลย เพราะแม้จะมีบางอย่างเสื่อมไปบ้างอย่างสายเข็มขัดสะพายดาบหรือฐานที่มีโอกาสสีลอกจากการประกอบตัวเข้ากับฐาน แต่เวลาตั้งโชว์ก็แทบไม่ได้เห็นจุดตำหนิเหล่านั้น จึงไม่ใช่ปัญหา



     สรุปว่า ทั้งด้วยกระแสและตัวชิ้นงานที่ดีในระดับถึงที่สุดในช่วงเวลานั้น จึงทำให้นี่เป็นหนึ่งในของสะสมระดับตำนานของ Diablo ที่ถ้าได้เห็นของจริงสักครั้งจะเข้าใจด้วยตัวคุณเอง


Pros
+ งานออกแบบคือจัดว่าสวยงามดีมากเมื่อย้อนกลับไปราวเกือบ 10 ปี
+ ความมั่นคงแข็งแรงที่จัดอยู่ในระดับดีมาก
Cons
- ในขั้นตอนการประกอบมีโอกาสทำให้เกิดรอยถ้าไม่ระวัง

วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

[Replica] Assassin's Creed Origins - Apple of Eden


     สวัสดีครับ Crucifer เอง ในที่สุดหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้รีวิวของสะสมของ Assassin's Creed Origins หลายชิ้นเมื่อก่อนหน้านี้นานมาแล้ว ในที่สุดก็มาถึงชิ้นสุดท้าย (ที่ผมสั่งซื้อมา) กันซะที เรียกว่าเป็นของคู่ประจำซีรี่ย์นี้ ซึ่งก็คือ Apple of Eden นั่นเอง!

     โดยจุดที่สำคัญคือมีการเปลี่ยนดีไซน์เล็กน้อยเลยมีการออกของใหม่มาให้สะสม แน่นอนว่าราคาอยู่ในระดับจับต้องได้เพราะครั้งนี้ไม่มีการทำ Limited Edition (แต่ถึงอย่างนั้น ใน Ubisoft Store ก็ Sold Out เรียบร้อย ต้องหาจากร้านอินเตอร์เน็ตอื่น ๆ) เพราะงั้นเรามาดูกันว่า Apple of Eden ของภาคนี้เป็นอย่างไร น่าสนใจแค่ไหน มาดูกัน


     เชื่อว่าทุกคนรู้จัก Apple of Eden ในเกมซีรี่ย์เป็นอย่างดี เพราะเป็นหนึ่งในไอคอนของซีรี่ย์นี้มาร่วมกว่า 10 ปีแล้ว โดยปกติจะมีดีไซน์มาเหมือนกันทุกภาค มีภาคนี้ที่แตกต่างออกไปทำให้มีการผลิตแยกขึ้นมาใหม่ให้สะสม แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างจะอิงตามเกมซะทีเดียวซึ่งจะลงรายละเอียดอีกที


  • Assassin's Creed Origins's Apple of Eden by Ubicollectibles
  • Designed by Ubicollectibles
  • Distributed by Ubisoft Store
  • Manufactured by Pure Arts Studio
  • 1:1 Scale Replica
  • Diameter: 9.5 cm.
  • Year of Origin: 2017
  • Country of Origin: China (Made in China)
  • Made from PVC & ABS
  • Apple of Eden with LED System and Egyptian-styled Base
  • Price ฿2,500+





     Apple of Eden มาในกล่องสีน้ำเงินเข้ม-ทองที่เป็นธีมประจำของภาคนี้ ด้านหน้ากับด้านข้างเป็น Artworks พิมพ์ UV Spot ด้านข้างอีกด้านเป็นคำอธิบายภาษาต่าง ๆ ด้านหลังเป็นแนะนำจุดเปิดไฟ ส่วนด้านบนเป็นโลโก้ประจำภาคนี้


     ด้านในเปิดมาเป็นพลาสติกคงรูปบรรจุ Apple of Eden และ Egyptian-styled Based ไว้และมีพลาสติกห่อกันรอยอีกทีหนึ่ง บรรจุภัณฑ์ถือว่าใส่มาได้มาตรฐานค่อนข้างดีไม่น่าห่วงอะไร


     ในส่วนของวัตถุดิบต้องถือว่า PVC และ ABS ที่ใช้มีความคงทนแข็งแรงเอาเรื่องอยู่ ซึ่งเป็นวัสดุแบบเดียวกับที่ใช้ใน Assassin's Creed Movie's Apple of Eden มีความคงทนไม่แตกง่าย ๆ แต่ก็อาจต้องระวังเรื่องความคมนิดนึง



     อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรกว่าภาคนี้มีการเปลี่ยนดีไซน์ทำให้มีการผลิตออกมาให้สะสม ซึ่งดีไซน์ที่ออกมาภาคนี้มีการลดทอนรายละเอียดเมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นเก่าอย่างชัดเจนแต่เน้นให้ความสวยงามบนลวดลายช่องไฟที่สามารถส่องแสงได้อย่างเดียวเท่านั้น

     ความคิดเห็นส่วนตัวคือ แม้ในเกมจะไม่รู้สึกว่าลดความสวยงามสักเท่าไหร่ด้วยว่าแสงที่ใช้ในเกมต่างออกไปและไม่เห็นรายละเอียดชัดเจน แต่ในฐานะของสะสมที่ลดทอนรายละเอียดมันค่อนข้างแย่ออกมาชัดเจน ยิ่งถ้าไม่ใช่งานสเกลใหญ่รายละเอียดเยอะก็ยิ่งเห็นได้ชัดเพราะอย่างที่รู้กัน เมื่อกลายเป็นของสะสมมันควรจะสวยงามแม้จะไม่ได้พึ่งพาลูกเล่นอย่าง LED

     ส่วนฐานก็ทำรองรับตามธีมอียิปต์โบราณของภาคนี้ซึ่งมีสีต่างกันออกมาชัดเจน




     ฟีเจอร์ที่ทำให้ Apple of Eden เวอร์ชั่นนี้สวยขึ้นมา นั่นก็คือ LED System ที่ติดเพื่อส่องแสงออกมาจากช่องไฟ ยังคงซ่อนไฟไว้ที่แกนกลางทั้งฝั่งบนและฝั่งล่างฝั่งละ 4 ดวงเช่นเดิม ใช้ถ่านขนาด AAA 2 ก้อนในการเปิดไฟ มีสวิตซ์ปิด/เปิดเป็นช่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ เวลาเปิดไฟแสงจะออกมาเฉพาะช่องไฟเท่านั้น ส่วนที่ลงสีทึบจะไม่มีออก (เว้นแต่จุดที่ลงสีพลาดแล้วแตกเป็นจุดเล็ก ๆ) ความสวยงามตอนกลางคืนคือตอนที่เห็นแสงไฟลอดผ่านออกมาเป็นลายบน Apple of Eden







     แน่นอนว่า มีดีย่อมสีเสีย แถมอยู่ในระดับเสียยับซะด้วย! เริ่มด้วยการลงสีของงานที่กลายเป็นจุดด่างพร้อยที่สุดเท่าที่เจอมาชิ้นหนึ่งของค่าย ด้วยความที่สเกลงานไม่ใช่ระดับงานปั้นแต่เป็นแค่แบบจำลองหยาบ ๆ มีทั้งไม่ได้เก็บสี มีสีเกินขอบออกมา มีจุดที่ไม่ลงสีทั่งถึง แต่นั่นไม่ได้แย่เท่ากับการเปิดไฟที่น่าจะโชว์ความสวยงามกลายเป็นโชว์ความด่างพร้อยแบบเต็ม ๆ


     ไม่ใช่แค่นั้น แม้แต่ฐาน การลงสีแบบขาด ๆ ก็อยู่ในระดับเกินบรรยายไปไกลจนไม่มีอะไรจะเอ่ย


     สุดท้าย ปิดด้วยแกนกลางที่ใส่แผงไฟกลายเป็นอะไรที่ทำให้ความสวยงามของงานชิ้นนี้พัง

     การที่มีจุดด่างพร้อยเยอะขนาดนี้มันก็มีหลากหลายสาเหตุทั้งการไม่ควบคุมคุณภาพตลอดจนปัญหาที่มีตั้งแต่การดีไซน์ที่เหมือนไม่ทำการบ้านมาทำให้เห็นตำหนิมากมายขนาดนี้


     จากคุณสมบัติทุกข้อที่กล่าวมา สำหรับความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับของสะสมทุกชิ้นของซีรี่ย์ บอกเลยว่า... "สอบตก..." ขอแนะนำให้เก็บเฉพาะคนที่เป็นแฟนซีรี่ย์นี้แบบจริงจังเท่านั้น หากคุณไม่ได้เป็นแฟนเดนตาย นี่จะเป็นของสะสมจาก Ubicollectibles ชิ้นแรกที่ไม่แนะด้วยประการทั้งปวง



     เป็นครั้งแรกที่พูดไม่ออก บอกไม่ถูก ด้วยความที่เป็นแฟนซีรี่ย์นี้ ถ้าคุณเป็นแฟนเดนตายจริงก็คงบอกให้สะสมไปเหอะ อนาคตอาจจะหายากมาก เพราะตอนนี้ที่เว็บหลักก็ Sold Out ไปแล้ว แต่ถ้าไม่ได้เป็นแฟนซีรี่ย์มันก็เป็นอะไรที่เจ็บปวดเมื่อเทียบกับของสะสมชิ้นอื่นที่มีราคาใกล้เคียงกันแต่คุณภาพดีกว่า ขอแนะนำแค่เฉพาะกับแฟนเดนตายจริง ๆ ก็แล้วกันครับ


Pros
+ Minimal แต่ดีไซน์ยังคงสวยงาม
Cons
- การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมือนไม่ได้ทำการบ้านมาเลย
- การควบคุมคุณภาพในระดับต่ำเตี้ยเรี่ยดิน